วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon จะเพิ่มการผลิตในการตอบสนองความบ้าคลั่งอย่างที่สุดของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์

Paris Air Show 2025: Eurofighter to increase production in response to ‘total madness' of geopolitical situation





A mock-up of the Eurofighter Typhoon at the Paris Air Show 2025. The consortium is to ramp up production to meet an expected surge in demand. (Eurofighter, Janes/Gareth Jennings, Adem Metan)

กลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter ยุโรปจะเพิ่มอัตราการผลิตของเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของตนเพื่อให้รองรับคำสั่งซื้อใหม่ต่างๆที่ขณะที่กำลังมีมาจนถึงการขายในอนาคต
ที่คาดว่าจะมีขึ้นในการปะทุของ "ความบ้าคลั่งอย่างที่สุด"(total madness) ของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน หัวหน้าของกลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter กล่าวเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025

ในการพูดคุยกับ Janes และสื่อกลาโหมอื่นๆ ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025 ผู้อำนวยการบริหาร Eurofighter ที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่ Jorge Tamarit Degenhardt กล่าวว่า
การผลิตของเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ตลอดทั่วทั้งโรงงานอากาศยานของสี่ชาติหุ้นส่วนจะถูกเร่งความเร็วขึ้น "เพื่อเพิ่มอัตราการผลิตและลดระยะเวลาดำเนินการ(lead time)"

"เรากำลังจะดำเนินการเพิ่มอัตราการผลิตจากปัจจุบันที่ 12เครื่อง(ต่อปี) ขั้นแรกที่ 20เครื่องต่อปี และจากนั้นขึ้นอยู่กับการขายในอนาคตเป็นที่ 30เครื่องต่อปี" Degenhardt กล่าวโดยเสริมว่า
ก้าวแรกที่จะเพิ่มอัตราการผลิตเป็น 20เครื่องต่อปี จะมีขึ้นในอีก 36เดือนข้างหน้า "ขณะนี้มันใช้เวลาราว 50เดือน(ตั้งแต่ลงนามสัญญาจนถึงส่งมอบ) และเราจำเป็นต้องลดมัน" เขาอธิบาย

กลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter ของเยอรมนี, อิตาลี, สเปน และสหราชอาณาจักรมีโรงงานอากาศยานการผลิตและประกอบเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของตนคือ
ของบริษัท Airbus Defence and Space(DS) ยุโรปที่ Manching เยอรมนี, บริษัท Leonardo อิตาลีที่ Caselle ในอิตาลี, บริษัท Airbus DS ที่ Getafe ในสเปน และบริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักรใน Warton สหราชอาณาจักร

เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ได้ถูกนำเข้าประจำการในสี่ชาติหุ้นส่วนคือกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/eurofighter-typhoon-tranche-1.html),
กองทัพอากาศอิตาลี(Italian Air Force, AMI: Aeronautica Militaire Italiana) โดยกำลังมีการสั่งจัดหาใหม่เพิ่มเติมจำนวน 24เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/eurofighter-typhoon-24.html)

กองทัพอากาศและอวกาศสเปน(Spanish Air and Space Force, EdAE: Ejército del Aire y del Espacio) ที่กำลังมีการสั่งจัดหาเพิ่มเติมจำนวน 20 เครื่องและ 25เครื่องภายใต้โครงการ Halcon I และ Halcon II ตามลำดับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/eurofighter-typhoon-halcon-ii-25.html)
และ กองทัพอากาศเยอรมนี(Luftwaffe) ที่กำลังจัดหาเพิ่มเติมจำนวน 20เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/eurofighter-typhoon-20.html) เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องบินขับไล่โจมตีสงคราม electronic(EA: Electronic Attack) แบบ Eurofighter EK(Elektronischer Kampf: Electronic Combat) จำนวน 15เครื่องครับ

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ฝรั่งเศสเลือกจะจัดหาเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye สวีเดน 2เครื่อง

Paris Air Show 2025: France selects GlobalEye as AWACS replacement





France is to acquire two GlobalEye aircraft, with the option for a further two. (Saab, Janes/Gareth Jennings, Xavier Vavasseur, Martin M.)

ฝรั่งเศสได้เลือกเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye สวีเดนเพื่อทดแทนเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Boeing E-3F AWACS(Airborne Warning and Control System) ที่มีอายุการใช้งานมานานของตน
สำนักงานจัดหากลาโหมฝรั่งเศส(DGA: Direction Générale de l'Armement) ประกาศเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/saab-globaleye-5.html)

การลงนามโดยบริษัท Saab สวีเดนและสำนักงานจัดหากลาโหมฝรั่งเศส DGA ฝรั่งเศส ของการประกาศในความตั้งใจที่จะจัดหาเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye จำนวน 2เครื่องโดยมีตัวเลือกเพิ่มอีก 2เครื่องรวม 4เครื่อง
มีขึ้นในเวลาสอดคล้องกับงานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้น ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025

ตามข้อมูลจาก DGA ฝรั่งเศส ข้อตกลงมีกำหนดจะบรรลุผลเสร็จสิ้น "ในอีกหลายเดือนข้างหน้าที่จะมาถึง" เป็นการเตรียมเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับกองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศส(French Air and Space Force, AAE: Armée de l'Air et de l'Espace) 
ที่จะปลดประจำการเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ E-3F จำนวน 4เครื่องของตนที่ได้รับมอบมาตั้งแต่ปี 1991(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/saab-globaleye-2.html)

ระบบควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ GlobalEye ถูกสร้างจากพื้นฐาน radar แบบ Saab Erieye ER(Extended Range) ที่ยังคงใช้จานสัญญาณ Radar ทรง 'แท่งแผ่นกระดาน' หนอกบนหลังภายนอกเครื่องเช่นเดียวกับระบบ Erieye ดั้งเดิมของบริษัท Saab
ติดตั้งด้วย Gallium Nitride(GaN) และวิทยาการต่างๆอื่นๆ Erieye ER เป็นระบบ AESA(Active Electronically Scanned Array) radar ที่มีประสิทธิภาพพลังงานเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับ Erieye radar รุ่นก่อน

Erieye ER มีระยะการทำงานของ radar ที่มากกว่า 650km ซึ่งสามารถเพิ่มขยายโดยการเน้นในจุดสนใจของพลังงานของ AESA radar(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/globaleye.html)
สมรรถนะที่เปิดเผยโดยการให้ข้อมูลจาก Saab สวีเดน เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ GlobalEye มีระยะเวลาการบินปฏิบัติการมากกว่า 13ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุดที่ 450knots

กองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAEAF&D: United Arab Emirates Air Force and Defence) เป็นลูกค้าส่งออกรายแรกสำหรับเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye
โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับมอบเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye AEW&C(Airborne Early Warning and Control) จำนวน 5เครื่องที่ตนสั่งจัดหาครบแล้วในเดือนกันยายน 2024

กองทัพอากาศสวีเดน(SwAF: Swedish Air Force, Svenska flygvapnet) ยังได้สั่งจัดหา Saab GlobalEye จำนวน 3เครื่องโดยกำหนดแบบเป็นเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab S 106 GlobalEye AEW&C
เพื่อทดแทนเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab ASC 890 AEW&C(Saab 340 ERIEYE) จำนวน 1เครื่องจากทั้งหมด 2เครื่องของตนที่บริจาคให้ยูเครน ซึ่งสองเครื่องแรกจะส่งมอบได้ก่อนกำหนดเดิมในปี 2027 และเครื่องสามในปี 2029 ครับ

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568

กองทัพอากาศไทยและอินโดนีเซียเสร็จสิ้นการฝึกผสม ELANG THAINESIA 2025








Royal Thai Air Foce (RTAF) and Indonesian Air Force concluded the exercise ELANG THAINESIA XX/2025 at Wing 1 Korat RTAF Base, Thailand on 9-19 June 2025.
20th iteration of the bilateral exercise ELANG THAINESIA participated with RTAF Korea Aerospace Industries (KAI) T-50TH Golden Eagle of 401st Squadron, Wing 4 Takhli and Lockheed Matin F-16A/B Block 15 OCU/ADF of 103st Squdron Wing 1 Korat;
and Indonesian Air Force KAI T-50i of 15th Air Squadron (Skadron Udara 15), Iswahyudi Air Force Base, Madiun with support from Lockheed Matin C-130H Hercules. (Royal Thai Air Foce)

ความร่วมมืออันแข็งแกร่ง ในการฝึกผสม ElangThaiNesia XX/25
ภาพบรรยากาศการฝึกผสมทางอากาศที่เข้มข้นระหว่างประเทศไทย และอินโดนีเซียครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือทางทหารของเราที่มีกันมาอย่างยาวนานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านปฏิบัติการร่วมทางอากาศของทั้งสองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  รวมทั้งจะนำแนวคิดที่ได้จากการฝึกฯ มาประยุกต์ใช้ในการรักษาความมั่นคง และอธิปไตยของชาติไทยต่อไป

กองทัพอากาศอินโดนีเซียวางกำลังเข้าร่วมการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ณ กองบิน 1
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 กองทัพอากาศอินโดนีเซียได้วางกำลังเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 กับกองทัพอากาศ โดยได้นำเครื่องบินขับไล่ฝึกแบบ T-50i จาก ฝูงบินที่ 15 (Skadron Udara 15) ประจำการ ณ ฐานทัพอากาศอิซวาฮยูดี เดินทางถึง กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่เรียบร้อย
ในโอกาสนี้ นาวาอากาศเอก กฤษณะ เปี่ยมศรี ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ฝ่ายกองทัพอากาศ ได้ให้การต้อนรับ Colonel Marcellinus Ardha Kilat D. ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ฯ ฝ่ายกองทัพอากาศอินโดนีเซีย พร้อมด้วยคณะนักบินและเจ้าหน้าที่จากอินโดนีเซียอย่างอบอุ่น
การฝึกผสมในครั้งนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาขีดความสามารถในการฝึกความพร้อมรบและการปฏิบัติการทางอากาศผสมในระดับทวิภาคี รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องหลักนิยม แนวความคิด เทคนิคการบินประกอบกำลังของทั้งสองชาติและนับเป็น “ครั้งแรก” ที่อากาศยานแบบ T-50 จากทั้งสองประเทศ 
ได้แก่ T-50i จากฝูงบินที่ 15 กองทัพอากาศอินโดนีเซีย และ T-50TH จากฝูงบิน 401 กองทัพอากาศไทย จะได้ร่วมปฏิบัติการบินในลักษณะ การฝึกปฏิบัติการทางอากาศร่วมกัน ระหว่างวันที่ 9-19 มิถุนายน 2568
ทั้งนี้ เครื่องบินแบบ T-50 ซึ่งเป็นเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่โจมตีขั้นต้น (Lead-In Fighter Trainer) และยังสามารถปฏิบัติภารกิจด้าน การโจมตีทางอากาศ, การบินค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพ ความพร้อมรบ และความร่วมมือด้านการบินระหว่างสองกองทัพอย่างใกล้ชิด

พิธีเปิดการฝึกผสมทางอากาศ ELANG THAINESIA XX/2025
เมื่อวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 ณ อาคาร STARFIRE กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา นาวาอากาศเอก กฤษณะ  เปี่ยมศรี ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ฝ่ายกองทัพอากาศ 
พร้อมด้วย Colonel Marcellinus Ardha Kilat D. ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมฯ ฝ่ายกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกผสมทางอากาศ ELANG THAINESIA XX/2025 อย่างเป็นทางการ
การฝึกผสมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศและกองทัพอากาศอินโดนีเซีย โดยมี ฝูงบิน 103 และฝูงบิน 401 ของกองทัพอากาศ ร่วมกับ ฝูงบินที่ 15 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ซึ่งได้ร่วมกันจัดกำลังพลและอากาศยานทั้งแบบ T-50 จากทั้ง 2 ประเทศและ F-16 จากกองทัพอากาศเข้าร่วมฝึกในครั้งนี้ 
เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ยกระดับขีดความสามารถ และความพร้อมรบในการปฏิบัติการร่วมกันของกำลังทางอากาศทั้งสองประเทศ 
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคพลเรือน ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่เข้าร่วมสนับสนุนการฝึกครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความปลอดภัยด้านการบินร่วมกันระหว่างภาครัฐและพลเรือน
สำหรับการฝึก ELANG THAINESIA XX/2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 19 มิถุนายน 2568 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา

พิธีปิดการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568 พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี รองเสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศพร้อมด้วย Air Commodore Suliono ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศ กองทัพอากาศอินโดนีเซีย ฝ่ายยุทธการ ร่วมเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
โดย พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี กล่าวเน้นย้ำในพิธีว่า “การฝึกครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง จิตวิญญาณแห่งความร่วมมือ ความไว้วางใจ และความเป็นพันธมิตรที่ยั่งยืน ระหว่างกองทัพอากาศของทั้งสองชาติ โดยตลอดระยะเวลาการฝึก กำลังพลได้ร่วมกันดำเนินการอย่างเต็มศักยภาพ ทั้งในด้านการวางแผนภารกิจ การฝึกการรบทางอากาศ และการประสานยุทธวิธี ซึ่งไม่เพียงแต่ยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมเท่านั้น หากยังถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความพร้อมรบร่วมของภูมิภาคอาเซียนในระยะยาว”
การฝึกผสม ELANG THAINESIA ในปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งความร่วมมืออันยาวนานและมั่นคง โดยรองเสนาธิการทหารอากาศได้กล่าวขอบคุณมิตรประเทศอินโดนีเซียอย่างจริงใจ พร้อมแสดงความหวังว่าความร่วมมือทางการทหารจะเติบโตและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต
พิธีปิดครั้งนี้จัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ความเชื่อมั่น และความภาคภูมิใจของกำลังพลทั้งสองชาติ ซึ่งร่วมฝึกอย่างเข้มข้นภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ การสร้างอาเซียนที่มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน
“เราไม่ได้เป็นเพียงพันธมิตรในอากาศ แต่เป็นมิตรแท้บนผืนดิน ที่พร้อมเคียงข้างกันเสมอ”
การฝึกผสมทางอากาศในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมี นาวาอากาศเอก กฤษณะ เปี่ยมศรี ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสมฯ ฝ่ายกองทัพอากาศไทย และ Colonel Marcellinus Ardha Kilat D. ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมฯ ฝ่ายกองทัพอากาศอินโดนีเซียเป็นผู้ควบคุมการฝึกตลอดระยะเวลาการฝึก ELANG THAINESIA XX/2025 มุ่งเน้นวัตถุประสงค์สำคัญ ได้แก่
- การเสริมสร้างและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านยุทธวิธีการบินและการปฏิบัติการทางอากาศ
- การยกระดับขีดความสามารถและความพร้อมรบของกำลังพลทั้งสองประเทศ
- การสร้างความเข้าใจและพัฒนามาตรฐานความร่วมมือในระดับทวิภาคี
-  การส่งเสริมมิตรภาพและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพอากาศไทยและอินโดนีเซีย
ตลอดระยะเวลาการฝึกระหว่างวันที่ 9–19 มิถุนายน 2568 กำลังพลจากทั้งสองประเทศได้ร่วมวางแผนยุทธวิธี ฝึกปฏิบัติภารกิจทางอากาศและภารกิจสนับสนุนอื่น ๆ ร่วมกัน โดยเฉพาะการปฏิบัติการร่วมกับอากาศยาน T-50TH จากฝูงบิน 401 ของกองทัพอากาศ อากาศยาน T-50i จากฝูงบินที่ 15 (Skadron Udara 15) ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ร่วมกับอากาศยาน F-16 จากฝูงบิน 103 กองทัพอากาศ
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคพลเรือน ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่ร่วมยกระดับความปลอดภัยด้านการบินระหว่างภาครัฐและพลเรือน การฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางทหารและเสริมสร้างมิตรภาพในหมู่กำลังพลทั้งสองชาติ 
อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ร่วมในการเสริมสร้างศักยภาพทางอากาศและความมั่นคงในภูมิภาค ตลอดจนยกระดับความสัมพันธ์ ไทย–อินโดนีเซียให้แน่นแฟ้นและยั่งยืนยิ่งขึ้น

กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Foce) และกองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara) ได้เสร็จสิ้นการฝึกผสมทางอากาศรหัส ELANG THAINESIA XX/2025 ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ณ กองบิน๑ โคราช จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย โดยมีพิธีปิดการฝึกเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘
การฝึกผสมทางอากาศ ELANG THAINESIA 2025 ปีนี้เป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศอินโดนีเซียส่งเครื่องบินฝึกไอพ่นและโจมตีเบา T-50i จากฝูงบินที่15(15th Air Squadron, Skadron Udara 15) ฐานทัพอากาศ Iswahyudi(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/t-50i-6.html) มาฝึกที่ไทยกับเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี และเครื่องขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ โคราช

การฝึก ELANG THAINESIA 2025 ล่าสุดนี้เป็นการฝึกครั้งที่๒๐ แล้ว และเป็นกลับมานำอากาศยานรบมาร่วมฝึกอีกครั้งหลังจากที่ไม่การนำอากาศยานเข้าร่วมการฝึกมาหลายปี โดยการฝึกครั้งก่อนหน้าเคยมีการนำเครื่องบินโจมตีแบบที่๕ บ.จ.๕ OV-10C Bronco, เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ บ.ข.๑๘ F-5, เครื่องขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B, และเครื่องบินโจมตีแบบที่ ๗ บ.จ.๗ Alpha Jet ของกองทัพอากาศไทย
เคยฝึกร่วมกับเครื่องบินโจมตี OV-10F, เครื่องบินขับไล่ F-5E/F, เครื่องบินขับไล่ F-16A/B และเครื่องบินฝึกไอพ่น Hawk 109 และเครื่องบินโจมตี Hawk 209 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซียในอดีต การฝึกทวิภาคีระหว่างกองทัพอากาศไทยและกองทัพอากาศอินโดนีเซียล่าสุดนี้เป็นเครื่องหมายถึงความสัมพันธ์ทางทหารอันแข็งแกร่งของทั้งสองชาติใน ASEAN ครับ

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ลิทัวเนียเลือกจัดหาเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium บราซิล 3เครื่อง

Paris Air Show 2025: Lithuania selects Millennium airlifter to become latest European customer





The Millennium was showcased at the Paris Air Show, during which Lithuania announced that it has selected the type. (Janes/Gareth Jennings, Embraer)







ลิทัวเนียได้กลายเป็นลูกค้าในยุโรปรายล่าสุดของเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Embraer KC-390 Millennium โดยบริษัท Embraer บราซิลได้ประกาศการเลือกแบบ
ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้น ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025

ตามที่ถูกประกาศเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025 การคัดเลือกได้มีขึ้นโดยลิทัวเนียประเทศในกลุ่ม Baltic ก่อนหน้าการลงนามสัญญาที่วางแผนไว้สำหรับเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium จำนวน 3เครื่อง
ตามที่ถูกระบุการกำหนดแบบเป็น C-390 ในการประกาศ ลิทัวเนียจะได้ได้รับมอบเครื่องในฐานะเครื่องบินลำเลียงและไม่ได้ถูกจัดเตรียมสำหรับใช้เป็นเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศตามที่กรณีนี้จะถูกกำหนดแบบเป็น KC-390

"เราได้ศึกษาอย่างระมัดระวังของเครื่องบินลำเลียงทางทหารหลากหลายแบบที่มีพร้อมขายในตลาด และการประเมินของเราได้แสดงชัดเจนว่าเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium เป็นระบบที่เหมาะสมที่สุดที่ตรงความต้องการการปฏิบัติการทางทหารต่างๆของชาติเรา" 
Loreta Maskaliovienė รองรัฐมนตรีกลาโหมลิทัวเนียกล่าว โดยเสริมว่าสัญญาจะบรรลุผลเสร็จสิ้น "ในหลายเดือนข้างหน้าที่จะมาถึง" ในการเลือกเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium ลิทัวเนียจะกลายเป็นประเทศยุโรปชาติล่าสุดที่จะมีประจำการด้วยเครื่องบินแบบนี้ต่อจาก


บริษัท Embraer ได้รับสัญญาการผลิตสำหรับเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC/C-390 Millennium จำนวน 17เครื่องของตนสำหรับลูกค้าต่างๆของชาติยุโรปและ/หรือ NATO ด้วยสองสัญญาที่ลงนามในงาน Paris Air Show 2025
ข้อตกลงที่ได้รับการประกาศสำหรับโปรตุเกสเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 และสำหรับเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 รวมถึงด้วยเลือกสำหรับ KC/C-390 Millennium จำนวน 10 และ 7เครื่องตามลำดับที่สามารถจะจัดหาโดยกลุ่มชาติพันธมิตรในพื้นฐานข้อตกลงรัฐบาลต่อรัฐบาล

ตามการอธิบายโดย Embraer บราซิล รูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งได้ถูกนำมาใช้แล้วสำหรับการจัดซื้อผสมผสานกันของออสเตรียและเนเธอร์แลนด์ได้จองสายการผลิตไปจนถึงราวปี 2035(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/embraer-c-390.html)
ข้อตกลงของโปรตุเกสที่ประกาศเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 ยังครอบคลุมการจัดหาเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 เพิ่มเติม 1เครื่องจากที่สั่งจัดหาแล้ว 5เครื่องรวมเป็นจำนวน 6เครื่อง

ขณะที่ข้อตกลงของเนเธอร์แลนด์ที่ประกาศเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 รวมการจัดหาส่วน modular การส่งกลับทางสายแพทย์ทางอากาศ(aeromedical evacuation) ติดตั้งแบบ roll-on/roll-off สำหรับเครื่องบินลำเลียง C-390 จำนวน 9เครื่อง
กำหนดแบบเป็น C-390 ในบทบาทเครื่องบินลำเลียง และ KC-390 ในบทบาทเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เครื่องบินลำเลียง Millennium สามารถบรรทุกภารกรรมได้มากกว่าเครื่องบินลำเลียง C-130 ที่ความเร็วสูงกว่าและระยะทางที่ไกลมากกว่า

เครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium มีพื้นที่ห้องบรรทุกภายในตัวเครื่องขนาดความจุ 170m³(รวมประตูท้ายเครื่อง ramp) และมีน้ำหนักภารกรรมบรรทุกสูงสุดที่ 23tonnes(หรือน้ำหนักภารกรรมบรรทุกที่รวบรวมที่จุดศูนย์ถ่วงของเครื่องที่สูงสุด 26tonnes) คุณลักษณะสมมรถนะที่เผยแพร่โดยบริษัท Embraer 
เครื่องบินลำเลียง C-390 มีความเร็วเดินทางสูงสุดที่ 470knots(870km/h) เพดานบินสูงสุดที่ 36,000feet และพิสัยการบินไกลที่ 1,380nmi(2,556kkm)(ด้วยน้ำหนักบรรทุก 23tonnes) หรือบินเดินทางด้วยถังเชื้อเพลิงภายในตัวเครื่องที่ 4,640nmi ระยะทำการบินสามารถเพิ่มขยายได้ด้วยการเติมเชื้อพลิงทางอากาศครับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Airbus กล่าวโครงการเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต FCAS/SCAF ยังคงเป็นไปได้ท่ามกลางความตึงเครียดกับ Dassault ฝรั่งเศส

Paris Air Show 2025: Airbus says FCAS/SCAF ‘still possible' despite Dassault tensions





An NGF scale model was tucked away at the rear corner of the Dassault stand at the Paris Air Show 2025, mirroring a seeming malaise that hung over the wider FCAS/SCAF programme at the event. (Janes/Gareth Jennings//Tim Robinson)

บริษัท Airbus ยุโรปกล่าวว่าโครงการระบบการรบทางอากาศอนาคต FCAS/SCAF(Future Combat Air System/Système de Combat Aérien du Futur) สามชาติฝรั่งเศส, เยอรมนี และสเปน รวมถึงเบลเยียมในอนาคต
โครงการยังสามารถที่จะเดินหน้าสู่การประสบผลสำเร็จได้ ท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังดำเนินอยู่กับผู้รับสัญญาร่วมบริษัท Dassault Aviation ฝรั่งเศส(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/fcasscaf.html)

หัวหน้าฝ่ายกำลังทางอากาศ(Air Power) ของบริษัท Airbus Defence and Space(DS) ยุโรป Jean-Brice Dumont ได้สร้างการยืนยัน ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025
ในวันเดียวกับที่ผู้อำนวยการบริหารบริษัท Dassault ฝรั่งเศส Éric Trappier เพิ่มถ่านลงในกองไฟเกี่ยวกับความตึงเครียดที่กำลังคุกกรุ่นระหว่างผู้รับสัญญาโครงการทั้งสองรายสำหรับเยอรมนีและฝรั่งเศส

โดย Trappier ได้ยืนยันอีกครั้งว่าบริษัท Dassault ของเขาเท่านั้นที่มีทักษะที่จะพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคหน้า NGF(New Generation Fighter)(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/fcasscaf.html)
ที่เป็นแกนกลางหลักของระบบอาวุธยุคหน้า NGWS(Next-Generation Weapon System) ที่ยังรวมถึงระบบอากาศยานไร้คนขับ 'คู่บินภักดี'(loyal wingman) และระบบเครือข่าย cloud การรบ CC(Combat Cloud)

"ผมไม่อยากจะให้ความเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่(คุณ Trappier) กล่าว(ในการให้สัมภาษณ์ของเขากับสำนักข่าว Bloomberg) แต่การทำงานร่วมกันใดๆไม่ใช่เรื่อง่าย" Dumont กล่าวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025
"เราไม่ได้ท้าทายว่า Dassault เป็นผู้นำสำหรับเสาหลักที่1(Pillar 1) ระบบเครื่องบินขับไล่ยุคหน้า NGF ของระบบอาวุธยุคหน้า NGWS(Next-Generation Weapon System)" Dumont กล่าวต่อ

"แต่นั่นก็มีการจัดสรรการแบ่งปันงาน(สำหรับแต่ละบริษัทหุ้นส่วนต่างๆ) ที่ได้มีการให้รายละเอียดโดยรัฐบาลแต่และประเทศ ผมเชื่อว่าด้วยการแบ่งปันงานที่ฉลาดและกฎการมีส่วนร่วม มันเป็นไปได้(สำหรับโครงการที่จะเดินหน้า) แต่จะต้องมีความประสงค์นั้นอยู่"
Dumont เสริม Janes ได้ร้องขอการเข้าพบกับ บริษัท Dassault ณ งาน Paris Air Show 2025 เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโครงการ FCAS/SCAF และปัญหาอื่นๆต่างๆ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง

งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้น ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025 ที่ส่วนจัดแสดงประจำที่ของ Dassault ฝรั่งเศส
แบบจำลองย่อขนาดของเครื่องบินขับไล่ยุคหน้า NGF ถูกซุกไว้ที่มุมด้านหลังของส่วนจัดแสดง สะท้อนถึงความรู้สึกที่ง่อนแง่นที่ปกคลุมอย่างหลากหลายในโครงการ FCAS/SCAF ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/rafale-f5.html)

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ฝรั่งเศสจัดแสดงเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 รุ่นล่าสุดแห่งอนาคต

Paris Air Show 2025: France showcases future Rafale







Standout features of the F5 version of the Rafale displayed at the Paris Air Show 2025 included CFTs and an ESJ jammer pod. (Janes/Gareth Jennings/Tim Robinson/French Air and Space Force/Dassault Aviation)

Rafale Demonstration - Paris Air Show 2025 - Dassault Aviation

ฝรั่งเศสได้จัดแสดงรุ่นแห่งอนาคตของเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025
การจัดแสดงมีขึ้นควบคู่ไปกับขีดความสามารถต่างๆที่อยู่บนรุ่นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 ใหม่ล่าสุด(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/rafale-f5.html)

การแสดงคุณลักษณะในกลุ่มส่วนจัดแสดงประจำที่ของกระทรวงกองทัพฝรั่งเศส(Ministry of Armed Forces of France, Ministère des Armées) เครื่องบินขับไล่ Rafale ของกองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศส(French Air and Space Force, AAE: Armée de l'Air et de l'Espace)
ได้เห็นการติดตั้งด้วยหลายชุดของการติดตั้งและภาระกรรมบรรทุกภารกิจที่มีศักยภาพความเป็นไปได้ที่กำลังจะถูกนำเสนอมาใช้สำหรับกรอบระยะเวลาปี 2030-2040(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/thales-ai-talios-rafale.html)

คุณลักษณะเฉพาะต่างๆรวมถึงถังเชื้อเพลิงแนบลำตัว CTF(Conformal Fuel Tank) บนส่วนด้านข้างของส่วนบนของเครื่องที่ไม่เคยเห็นในเครื่องบินขับไล่ Rafale มาก่อนตั้งแต่ที่ถูกถกประเด็นครั้งแรกในต้นปี 2000s
และกระเปาะสงคราม electronic(EW: Electronic Warfare) แบบ stand-in jammer ที่ถูกเรียกว่ากระเปาะสงคราม electronic แบบ ESJ(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/rafale-80.html)

นอกเหนือจากตัวเครื่องบินขับไล่ Rafale ระบบอากาศยานไร้คนขับ UAS(Unmanned Aircraft System) แบบปีกบิน(flying-wing) ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามานั้นจะถูกใช้งานในฐานะ 'คู่บินภักดี'(loyal wingman) ได้ถูกจัดแสดงในกลุ่มส่วนจัดแสดงด้วย
Janes ได้เข้าหาบริษัท Dassault Aviation ฝรั่งเศสก่อนหน้างานแสดง Paris Air Show 2025 เพื่อร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเครื่องบินขับไล่ Rafale ในปัจจุบันและอนาคต แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง

การจัดแสดงของคุณลักษณะต่างๆที่ได้รับการวางแผนไว้ของรุ่นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Rafale F4 มีขึ้นตามมาราว 3ปี 6เดือนหลังจากที่กองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศสเปิดเผยเป็นครั้งแรกต่อ Janes และผู้เข้าร่วมงานอื่นๆ
ณ งานสัมมนาเครื่องบินขับไล่นานาชาติ IQPC International Fighter Conference 2022(IFC 2022) ที่จัดขึ้นในนครหลวง Berlin เยอรมนี ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2022 ว่า

กองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศสกำลังมองที่จะติดตั้งเครื่องบินขับไล่ Rafale ของตนสำหรับภารกิจการกดดันระบบป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก(SEAD: Suppression of Enemy Air Defences)/การทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก(DEAD: Destruction of Enemy Air Defences) ตั้งแต่ปี 2030
ต่อมารัฐมนตรีกระทรวงกองทัพฝรั่งเศส Sébastien Lecornu ได้ประกาศการเริ่มต้นการพัฒนามาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 ในเดือนตุลาคม 2024 โดยเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 มาตรฐานใหม่เครื่องแรกจะถูกส่งมอบภายในปี 2027 ครับ

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568

อินโดนีเซียจะเริ่มการประเมินค่ารถสายพานลำเลียงพล Harimau APC คันแรกในปี 2026

Indo Defence 2025: Indonesia to begin evaluating first Harimau APC in 2026




An APC variant of the Harimau tank on display at Indo Defence 2025. (FNSS)

กองทัพบกอินโดนีเซีย(Indonesian Army, TNI-AD: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Darat) กำหนดที่จะประเมินค่ารถสายพานลำเลียงพล Harimau APC(Armoured Personnel Carrier) คันแรกของตนในปี 2026
ด้วยมุมมองของการจัดตั้งโครงการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นทางการสำหรับรถสายพานลำเลียงพล Harimau APC(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/pt-pindad-harimau.html)

ประเด็นนี้ได้รับการยืนยันโดยตัวแทนจาก PT Pindad รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอินโดนีเซีย ณ นิทรรศการและการประชุมการป้องกันประเทศ Indo Defence Expo and Forum 2025 ในนครหลวง Jakarta  ระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2025
ตามของมูลจากตัวแทน PT Pindad อินโดนีเซียในงาน Indo Defence 2025 รถสายพานลำเลียงพล Harimau APC นี้เป็นหนึ่งในสองคันที่ได้รับการจัดหาโดยรัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามกับบริษัท FNSS ตุรกีในเดือนตุลาคม 2024

ภายใต้ข้อตกลงรถสายพานลำเลียงพล Harimau APC หนึ่งคันจะถูกสร้างโดยโรงงานของบริษัท FNSS ในตุรกี โดยรถอีกหนึ่งคันจะถูกส่งมอบไปที่โรงงานของ PT Pindad ใน Bandung อินโดนีเซียในรูปแบบชิ้นส่วนชุดประกอบ semi-knocked-down
เหล่าวิศวกรของ PT Pindad อินโดนีเซียจะทำการประกอบรถสายพานลำเลียงพล Harimau APC คันที่สองโดยความช่วยเหลือจาก FNSS ตุรกี ตัวแทน PT Pindad กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/defend-id.html)

รถสายพานลำเลียงพล Harimau APC ขนาดน้ำหนักรถ 30tonne ที่แบ่งปันส่วนรถแคร่ฐาน(chassis) เดียวกับรถถังขนาดกลาง Harimau ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย PT Pindad อินโดนีเซียและ FNSS ตุรกี(https://aagth1.blogspot.com/2020/06/2021.html)
แบบจำลองขนาดเท่าของจริง mock-up ของรถสายพานลำเลียงพล Harimau APC ถูกจัดแสดงเป็นครั้งแรก ณ นิทรรศการและการประชุมการป้องกันประเทศ Indo Defence 2025 ที่ศูนย์จัดแสดง Jakarta International Expo

รถถังขนาดกลาง Harimau ติดตั้งด้วยระบบป้อมปืนใหญ่รถถัง Cockerill Defence C3105 ที่มีพลประจำภายในป้อมปืน 2นาย ติดตั้งปืนใหญ่รถถังแรงดันสูง Cockerill 105mm และยังติดตั้งด้วยปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62mm 
จนถึงตอนนี้กองทัพบกอินโดนีเซียได้สั่งจัดหารถถังขนาดกลาง Harimau แล้วจำนวน 18คัน และการส่งมอบสำหรับโครงการนี้ได้เสร็จสิ้นไปแล้วในเดือนตุลาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/allison-harimau.html)

รถสายพานลำเลียงพล Harimau APC สองคันที่จะได้รับการประเมินค่าโดยกองทัพบกอินโดนีเซียจะสืบทอดคุณลักษณะหลักส่วนใหญ่ของรถถังขนาดกลาง Harimau แต่จะถูกแทนที่ด้วยการติดตั้งป้อมปืน remote(RCWS: Remote-Controlled Weapon Station) 
พร้อมปืนกลหนักขนาด 12.7 และระบบตรวจจับ electro-optical ต่างๆ รถสายพานลำเลียงพล Harimau APC สามารถบรรทุกทหารไปกับรถได้ 13นาย รวมถึงพลประจำรถ 3นายคือพลยิง, พลขับ และผู้บังคับการรถครับ

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568

การพัฒนากำลังอากาศยานจากสมุดปกขาวกองทัพอากาศไทย RTAF White Paper 2025

Aircraft from the Royal Thai Air Force, U.S. Air Force and Republic of Singapore Air Force participate in an ‘Elephant Walk’ during exercise Cope Tiger 25, at Korat Royal Air Base, Thailand Mar. 25, 2025. Twenty-one aircraft from the three nations lined the taxiway showcasing the combined airpower of CT25. This is the first formation of its kind in the 31-year history of the Cope Tiger exercise. (U.S. Air Force)



Royal Thai Air Force (RTAF) White Paper 2025 on Royal Thai Air Force official website

สมุดปกขาวของกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๕๖๘ RTAF White Paper 2025 ของกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ได้ถูกเผยแพร่ในเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘(2025) หลังการแถลงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ข/ค บ.ข.๒๐ข/ค Saab JAS 39 Gripen E/F(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/tai-saab-340-erieye.html, https://aagth1.blogspot.com/2025/06/gripen-ef.html
เป็นการปรับปรุงจากสมุดปกขาวของกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๕๖๗ RTAF White Paper 2024 ที่เปิดตัวในการสัมมนาเชิงวิชาการ RTAF Symposium 2024 เมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗(2024)(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/rtaf-white-paper-2024.html) ซึ่งห่างกันเพียงราวหนึ่งปีกว่า ถ้าเทียบกับสมุดปกขาวของกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๕๖๓ RTAF White Paper 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/2020.html)

ทั้งนี้การดำเนินการภายใต้แผนงานตามสมุดปกขาว RTAF White Paper 2024 ในห้วงปี พ.ศ.๒๕๖๗-๒๕๖๘(2024-2025) ถูกระบุว่าไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามแผนงานเนื่องด้วยข้อจำกัดของงบประมาณแผ่นดินจึงจำเป็นต้องมีการทบทวนแผนงานตามกรอบงบประมาณที่ได้รับ ตลอดจนปรับปรุงให้สอดคล้องกับเอกสารยุทธศาสตร์และการพัฒนากองทัพ พ.ศ.๒๕๖๙-๒๕๘๐(Ministry of Defence White Paper 2026-2037) ซึ่งมีกรอบแนวทางการพัฒนาทั้งด้านการเตรียมกำลังและการใช้กำลังที่ชัดเจนในการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหมและพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถตอบรับกับภัยคุกคามแบบผสมผสาน รวมทั้งปรับปรุงให่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ ๒๐ปี พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๘๐(2018-2037) ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๘ ประกอบกับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๗ 
ถึงประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่องเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางทางอากาศ พ.ศ.๒๕๖๗ โดยมีการขยายพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพอากาศ จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถให้สอดคล้องกับเขตความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของการทบทวนและจัดทำสมุดปกขาวของกองทัพอากาศ RTAF White Paper 2025 เพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจนในการพัฒนากองทัพอากาศ

แผนการพัฒนากองทัพอากาศทุกมิติ(All Domains Projects) ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๗-๒๕๘๐(2024-2037) ที่สำคัญในการพัฒนากำลังอากาศยานและกำลังรบ ที่ได้ถูกระบุใน สมุดปกขาวของกองทัพอากาศ RTAF White Paper 2025 ล่าสุด ประกอบด้วยเช่น

The artist impression of Royal Thai Air Force Gripen E of 102nd Squadron, Wing 1 Korat in background press conference on 4 June 2025. (Royal Thai Air Force)

โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๖๘-๒๕๗๒ (2025-2029), ระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๑-๒๕๗๒ (2028-2032) และระยะที่ ๓ ปี ๒๕๗๓-๒๕๗๒ (2030-2034)
จัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B จำนวน ๑ ฝูงบิน พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น คือโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ข/ค บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราช ที่รอจะได้รับการลงนามสัญญาในภายในปี ๒๕๖๘ นี้
แบ่งเป็นระยะที่๑ วงเงินราว ๑๙,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($562,665,012) สำหรับเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ข บ.ข.๒๐ข Gripen E ที่นั่งเดี่ยวจำนวน ๓เครื่อง และเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ค บ.ข.๒๐ค Gripen F สองที่นั่งจำนวน ๑เครื่อง, ระยะที่๒ บ.ข.๒๐ข Gripen E จำนวน ๓เครื่อง และ บ.ข.๒๐ค Gripen F จำนวน ๑เครื่อง และระยะที่๓ บ.ข.๒๐ข Gripen E จำนวน ๔เครื่อง


Royal Thai Air Force (RTAF) Northrop F-5E/F TH Super Tigris of 211st Squadron, Wing 21 Ubon Ratchathani and Dornier Alpha Jet TH of 231st Squadron, Wing 23 Udon Thani, were displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photos)

โครงการจัดหาเครื่องบินโจมตีทดแทน หรือโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับติดอาวุธทดแทน ฝูงบิน ๒๑๑ กองบิน ๒๓ หรือฝูงบิน ๒๓๑ กองบิน ๒๓ ปี ๒๕๗๔-๒๕๗๘ (2031-2035)
จัดหาเครื่องบินโจมตีทดแทนหรือจัดหาอากาศยานไร้คนขับติดอาวุธ จำนวน ๑ ฝูงบิน พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค Northrop F-5E/F TH Super Tigris ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี หรือเครื่องบินโจมตีแบบที่๗ บ.จ.๗ Alpha Jet TH ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี
ซึ่งกองทัพอากาศไทยมองที่จะทดแทนเพียงหนึ่งฝูงบินจำนวน ๑๒-๑๔เครื่องด้วยเครื่องบินโจมตีอย่างการจัดหาเครื่องบินโจมตีแบบที่๘ บ.จ.๘ Beechcraft AT-6TH Wolverine ที่เข้าประจำการ ณ ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ แล้วเพิ่มเติมอีกหนึ่งฝูงบิน หรืออากาศยานรบไร้คนขับ(UCAV: Unmanned Combat Aerial Vehicle) ทั้งแบบที่พัฒนาในประเทศหรือได้รับความร่วมมือการถ่ายทอดวิทยาการจากต่างประเทศ

Two of U.S. Air Force (USAF) the F-35A Lightning II Demonstration Team displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนยุคที่ ๕ ฝูงบิน ๔๐๓ กองบิน ๔ ปี ๒๕๘๐-๒๕๘๙ (2037-2046)
จัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนยุคที่ ๕ จำนวน ๑ ฝูงบิน พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16AM/BM EMLU Fighting Falcon ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี
เป็นที่ชัดเจนว่ากองทัพอากาศไทยยังคงมองความต้องการที่จะมีเครื่องบินขับไล่โจมตียุคที่๕(5th Generation Fighter) ประจำการ โดยแผนเดิมที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II สำหรับทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ ได้เปลี่ยนมาเป็นสำหรับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔
ซึ่งถ้าหากสหรัฐฯยังคงไม่อนุมัติการขายเครื่องบินขับไล่ F-35A ของตนแก่ไทยอยู่(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/f-35-1.html) ตัวเลือกอื่นที่สามารถจะถูกพิจารณาได้ยังรวมถึงเครื่องบินขับไล่ Korea Aerospace Industries(KAI) KF-21 Boramae สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/kai-kf-21.html),
เครื่องบินขับไล่ Turkish Aerospace Kaan ตุรกี(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/kaan-48.html), เครื่องบินขับไล่ Sukhoi Su-57 รัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/su-57-ai.html) และเครื่องบินขับไล่ Shenyang J-35A จีน(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/j-35a-40.html) เป็นต้น

Korea Aerospace Industries (KAI) T-50TH Golden Eagle "40114" of 401st Squadron, Wing 4 Takhli; Royal Thai Air Force (RTAF) displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น T-50TH ปี ๒๕๗๐-๒๕๗๔ (2027-2031)
จัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น เครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ Korea Aerospace Industries(KAI) T-50TH Golden Eagle จำนวน ๒เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อรองรับภารกิจการฝึกนักบินขับไล่โจมตีขั้นต้นของกองทัพอากาศให้มีความรู้ความสามารถในการไปปฏิบัติงานกับเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ต่อไป
ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยได้รับมอบเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๒ T-50TH เข้าประจำการ ณ ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี แล้ว ๑๔เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/t-50th-40114.html) การจัดหา บ.ขฝ.๒ T-50TH เพิ่มเติมอีก ๒เครื่องจะทำให้จำนวนเครื่องจะรวมเป็น ๑๖เครื่อง เพิ่มความพร้อมในการฝึกนักบินขับไล่โจมตีได้มากขึ้น

Korea Aerospace Industries (KAI) FA-50 with weapons and equippments include Diehl Defence IRIS-T displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการสร้างคลังอาวุธ และจัดหาอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด วิกกฤต ของกองทัพอากาศ (IRIS-T) ปี ๒๕๖๗-๒๕๗๐ (2024-2027)
การปรับปรุงขีดความสามารถระบบอาวุธของเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH และเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ให้สามารถใช้งานอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศแบบ IRIS-T และการสนับสนุนการทดสอบภาคพื้น การทดสอบภาคอากาศ และการยิงทดสอบ(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/rv-connex-diehl-defence-jrv-01-iris-t.html)
ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยได้บูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก Saab Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี, เครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี และเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH Super Tigris ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี
จึงเป็นที่เข้าใจว่าเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH Golden Eagle ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ จะได้รับการบูรณาการด้วยอาวุธปล่อนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T และอาจจะรวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-16A/B ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ โคราช เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในช่วงที่ยังประจำการก่อนที่ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ จะได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F ที่ใช้ IRIS-T ได้เช่นกันด้วย

Royal Thai Air Force F-16B ADF of 103rd Squadron, Wing 1 Korat loading with AIM-9M Sidewinder air-to-air missiles. (Royal Thai Air Force)

โครงการฟื้นฟูอาวุธอากาศสู่อากาศในระยะสายตา (AIM-9M) ปี ๒๕๖๙-๒๕๗๒ (2026-2029)
ดำรงขีดความสามารถของอาวุธอากาศสู่อากาศในระยะสายตา (WVRM: Within Visual Range Missile) แบบ Raytheon AIM-9M Sidewinder ซึ่งเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ที่ติดตั้งในเครื่องบินรบหลักหลายแบบของกองทัพอากาศ เพื่อยืดอายุการใช้งานออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

MBDA displayed model of its products included METEOR beyond-visual-range air-to-air missile (BVRAAM) at LIMA 2025 show in Langkawi, Malaysia on 20 to 24 May 2025. (Royal Thai Air Force)

โครงการจัดหาอาวุธอากาศสู่อากาศระยะไกลกว่าสายตา ปี ๒๕๗๐-๒๕๗๒ (2027-2029)
จัดหาอาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศไกลกว่าสายตา (BVRM: Beyond Visual Range Missile) ที่มีระยะยิงพิสัยไกลไม่น้อยกว่า 50 nautical miles (92.6km) ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา (BVRAAM: Beyond-Visual-Range Air-to-Air Missile) แบบ MBDA Meteor ที่ไม่ระบุจำนวนสำหรับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐/ก/ข/ค Gripen C/D/E/F

Royal Thai Air Force's Directorate of Armament and Defence Technology Institute (DTI) unveiled domestic Thai Guided Glide Bomb (TGGB) at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

Royal Thai Air Force F-16B ADF of 103rd Squadron, Wing 1 Korat loading with LIG Nex1 KGGB (Korean GPS-Guided Bomb). (Royal Thai Air Force)

โครงการจัดหาอาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้นพิสัยไกล ปี ๒๕๗๓-๒๕๗๕ (2030-2032)
จัดหาอาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้นพิสัยไกล (Stand-Off Weapon) ที่มีระยะยิงพิสัยไกลไม่น้อยกว่า 30 nautical miles (55.56km) ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยได้จัดหาชุดระเบิดร่อนนำวิถีดาวเทียม KGGB(Korean GPS-Guided Bomb) จากบริษัท LIG Nex1 สาธารณรัฐเกาหลีแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2023/11/defense-security-2023-kggb.html)
ซึ่งได้นำมาติดตั้งทดสอบยิงจากกับเครื่องบินรบที่มีอยู่ได้หลายแบบรวมถึงเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU/ADF ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/kggb-f-16.html) ซึ่งใช้ติดตั้งลูกระเบิดทำลายอเนกประสงค์ Mk 82 ขนาด 500lbs ผลิตในไทยโดยกรมสรรพาวุธทหารอากาศ สพ.ทอ.(Directorate of Armament)
เป็นที่เข้าใจว่าโครงการจัดหาอาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้นพิสัยไกลอาจจะเป็นได้ทั้ง ชุดเพิ่มระยะการร่อน ลูกระเบิดอากาศอเนกประสงค์ Thai Guided Glide Bomb (TGGB) ที่พัฒนาโดย กรมสรรพาวุธทหารอากาศ และ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สทป. DTI(Defence Technology Institute) 
หรือการจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นร่อนจากต่างประเทศ อย่างเช่น Raytheon AGM-154 Joint Stand-Off Weapon(JSOW), TAURUS KEPD 350(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/taurus-lig-nex1-kepd-350k-2-fa-50.html), MBDA Storm Shadow/SCALP(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/typhoon-storm-shadow.html) เป็นต้น

Royal Thai Air Force Lockheed Martin C-130H Hercules "60109" of 601st Squadron, Wing 6 Don Muang at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการปรับปรุงขีดความสามารถของเครื่องบินลำเลียงแบบที่๘ C-130H ระยะที่ ๓ ปี ๒๕๖๗-๒๕๗๐ (2024-2027) และระยะที่ ๔ ปี ๒๕๗๐-๒๕๗๓ (2027-2030)
การปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องยนต์ใบพัด turboprop แบบ T56-A-15LFE ของเครื่องบินลำเลียงแบบที่๘ บ.ล.๘ Lockheed Martin C-130H Hercules พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ และการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เครื่องบินลำเลียง บ.ล.๘ C-130H สามารถดำรงขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจตามที่กองทัพอากาศกำหนด ตลอดจนมีความพร้อมในการสนับสนุนรัฐบาลและช่วยเหลือประชาชน
กองทัพอากาศไทยได้ดำเนินโครงการปรับปรุงขีดความสามารถของเครื่องบินลำเลียง บ.ล.๘ C-130H ฝูงบิน๖๐๑ กองบิน๖ ดอนเมืองมาแล้วสองระยะก่อนหน้า และกำลังดำนินการปรับปรุงขีดความสามารถระยะที่๓(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/c-130h-elephant-walk.html) และจะตามด้วยระยะที่๔ ต่อไป เพื่อให้ใช้งานต่อไปได้จนกว่าจะมีเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีแบบใหม่มาทดแทน


Models of Lockheed Martin C-130J Super Hercules for Royal Thai Air Force (RTAF) and Embraer C-390 Millennium were displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand for Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photos)

โครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีอเนกประสงค์ ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๖๙-๒๕๗๓ (2026-2030), ระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๒-๒๕๗๖ (2029-2033) และระยะที่ ๓ ปี ๒๕๗๕-๒๕๗๙ (2032-2036)
จัดหาเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีอเนกประสงค์ พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการลำเลียงทางอากาศ การส่งกลับสายแพทย?ทางอากาศ และการช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาสาธารณภัย ที่น่าจะเป็นการทดแทนเครื่องบินลำเลียง บ.ล.๘ C-130H ฝูงบิน๖๐๑ กองบิน๖ 
ซึ่งน่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างเครื่องบินลำเลียง Lockheed Martin C-130J Super Hercules สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/c-130j-30-hercules-2.html) และเครื่องบินลำเลียง Embraer C-390 Millennium บราซิล(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/c-390-millennium-c-130h.html)

Airbus displayed model of its Airbus A330 MRTT at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการจัดหาเครื่องบินรับ-ส่งบุคคลสำคัญทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ ๑๙ Airbus A340-500 ปี ๒๕๖๘-๒๕๗๑ (2025-2028)
จัดหาเครื่องบินรับ-ส่งบุคคลสำคัญทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่๑๙ บ.ล.๑๙ Airbus A340-500 ฝูงบิน๖๐๒ กองบิน๖ จำนวน ๑ เครื่อง พร้อมการตกแต่งห้องผู้โดยสาร การฝึกอบรม การจัดหาอะไหล่ อุปกรณ์ และระบบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการส่งกำลังและซ่อมบำรุง เป็นเครื่องบินลำเลียงระยะไกล (Long-haul) มีลำตัวกว้าง (Wide-Body) มีเครื่องยนต์ Turbofan อย่างน้อย ๒ เครื่องยนต์
เป็นเครื่องบินรับ-ส่งบุคคลสำคัญ และสามารถติดตั้งระบบเติมเชื้อเพลิงโดยได้รับการรองรับให้สามารถเติมเชื้อเพลิงในอากาศกับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B และเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐/ก/ข/ค JAS-39 Gripen C/D/E/F ของกองทัพอากาศได้ เป็นที่เข้าใจว่านี่จะเป็นโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus A330 MRTT(Multi Role Tanker Transport) 
วงเงิน ๑๒,๑๔๔,๐๐๐,๐๐๐บาท($359,390,994) ที่เป็นงบประมาณในส่วนของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สปน.(the Office of the Permanent Secretary to the Prime Minister, Office of the Prime Minister) ที่มีรายงานก่อนหน้าซึ่งใช้งานได้ทั้งการรับ-ส่งบุคคลสำคัญและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศอย่างคุ้มค่าสูง(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/airbus-a330-mrtt.html)

Royal Thai Air Force Basler BT-67 of 461st Squadron Wing 46 Phitsanulok at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand during Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการดัดแปลงเครื่องปฏิบัติภารกิจฝนหลวง เครื่องบินลำเลียงแบบที่ ๒ก บ.ล.๒ก Basler BT-6 ปี ๒๕๖๗-๒๕๗๐ (2024-2027)
การปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินลำเลียงแบบที่ ๒ก บ.ล.๒ก Basler BT-67 ฝูงบิน๔๖๑ กองบิน๔๖ พิษณุโลก โดยการปรับปรุงระบบ Avionics ภายในห้องนักบิน จำนวน ๔ เครื่อง ได้แก่ ระบบ radar ตรวจอากาศ (Weather Radar) และระบบการแจ้งเตือนการบินที่ระดับความสูงต่ำ (TAWS: Terrain Avoidance Warning System) หรือระบบ Radio Altimeter

โครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ ๒ก BT-67 ปี ๒๕๗๔-๒๕๗๘ (2031-2035)
จัดหาเครื่องบินลำเลียงทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ ๒ก บ.ล.๒ก Basler BT-67 ฝูงบิน๔๖๑ กองบิน๔๖ ในการปฏิบัติภารกิจลำเลียงระยะสั้น (Short-haul) พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น ซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีขนาดกลางสองเครื่องยนต์ใบพัด
เช่น เครื่องบินลำเลียง Airbus C295 เช่นที่ประจำการในกองทัพบกไทย(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/c295.html) หรือเครื่องบินลำเลียง เครื่องบินลำเลียง Leonardo C-27J Spartan(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/c-27j-spartan.html)

Royal Thai Air Force Beechcraft T-6TH Texan II trainer aircraft of RTAF Flying Training School Kamphaeng Saen was displayed at Wing 6 Don Muang Royal Thai Air Force (RTAF) base, Bangkok, Thailand for Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)   

โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกทดแทน บ.ฝ.๑๙ PC-9 ระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๐-๒๕๗๒ (2027-2029)
จัดหาเครื่องบินฝึกทดแทนเครื่องบินฝึกแบบที่๑๙ บ.ฝ.๑๙ Pilatus PC-9 Mustang คือเครื่องบินฝึกแบบที่๒๒ บ.ฝ.๒๒ Beechcraft T-6TH(T-6C) Texan II จำนวน ๒เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อรองรับภารกิจการฝึกศิษย์การบินของกองทัพอากาศ
โรงเรียนการบินกำแพงแสน กองทัพอากาศไทยได้ปลดประจำการเครื่องบินฝึกบ.ฝ.๑๙ PC-9 ชุดสุดท้ายจากจำนวน ๒๖เครื่องที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๔(1991) ไปเมื่อเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗(2024)(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/pc-9-mustang.html)
และแทนที่ด้วยเครื่องบินฝึก บ.ฝ.๒๒ T-6TH Texan II จำนวน ๑๒เครื่องที่ได้รับมอบครบเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๖(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/t-6th.html) การจัดหา บ.ฝ.๒๒ T-6TH เพิ่มเติม ๒เครื่องจะทำให้จำนวนเครื่องในฝูงบินฝึกขั้นปลาย กองการฝึกบิน โรงเรียนการบิน เพิ่มเป็นรวม ๑๔เครื่อง เพิ่มความพร้อมในการรองรับการฝึกศิษย์การบินได้มากขึ้น

CT-4E Airtrainer trainer aircraft of Royal Thai Air Force Flying Training School Kamphaeng Saen. (Royal Thai Air Force)

Royal Thai Air Force Diamond DA40-NG Diamond Star and CT-4B Airtrainer trainer aircraft of of 604th Squadron Wing 6 Don Mueang were displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand for Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo) 

โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกขั้นต้นทดแทน บ.ฝ.๑๖ก CT-4E ปี ๒๕๗๖-๒๕๘๐ (2033-2037)
จัดหาเครื่องบินฝึกทดแทนเครื่องบินฝึกแบบที่ ๑๖ก บ.ฝ.๑๖ก CT-4E Airtrainer ฝูงบินฝึกขั้นต้น กองการฝึกบิน โรงเรียนการบินกำแพงแสน ซึ่งใช้งานตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๒(1999) โดยวางแผนจะครบปลดประจำการด้วยข้อจำกัดทางโครงสร้างและระบบส่งกำลังและซ่อมบำรุงของอากาศยาน
การทดแทนเครื่องบินฝึก บ.ฝ.๑๖ก CT-4E จำนวน ๒๔เครื่องที่รับมอบตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๒-๒๕๔๘(1999-2005) เข้าใจว่าควรจะเป็นการจัดหาเครื่องบินฝึกที่มีสมรรถนะสูงกว่าเครื่องบินฝึกแบบที่๒๑ บ.ฝ.๒๑ Diamond DA40 NG Diamond Star ที่นำมาทดแทนเครื่องบินฝึกแบบที่๑๖ บ.ฝ.๑๖ CT-4A/B(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/ct-4a.html) ไปก่อนหน้าแล้ว

Thai Aviation Industries (TAI) displayed model of domestic K-Series Unmanned Aerial Vehicle (UAV), K-24 M Solar-X solar cell electric battery-powered and electric motor in Vertical Take-Off and Landing (VTOL) configuration, and domestic KB (Kamikaze Bomber) UAV family KB-5E at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand for Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ M Solar-X  ปี ๒๕๖๕-๒๕๖๗ (2022-2024)
การวิจัยและพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กสมรรถนะสูงเพดานบินต่ำ (Low Alttitude) โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) เพื่อใช้ในการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหาร ให้กองกำลังภาคพื้นดินใช้งานเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจการณ์และลาดตระเวนรอบฐานที่ตั้งในภารกิจป้องกันฐานบินของกองทัพอากาศ


Royal Thai Air Force domestic KB (Kamikaze Bomber) Unmanned Aerial Vehicle (UAV) family also known as "Kamikaze Drone", KB-5E and KB-10G, and model of M-Pseudo SAT High Altitude Pseudo Satellite (HAPS) displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand for Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการผลิตอากาศยานไร้คนขับ M Solar-X สำหรับภารกิจป้องกันฐานบิน ปี ๒๕๖๘(2025), ปี ๒๕๖๙(2025) และปี ๒๕๗๐(2027)
การผลิตอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กสมรรถนะสูงเพดานบินต่ำ (Low Alttitude) โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) สำหรับภารกิจป้องกันฐานบินของกองทัพอากาศ
โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช(NKRTAFA: Navaminda Kasatriyadhiraj Royal Thai Air Force Academy) ได้เสร็จสิ้นการวิจัยและพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับ M Solar-X และได้เริ่มต้นเปิดสายการผลิตโดยบริษัทอุตสาหกรรมการบินจำกัด(TAI: Thai Aviation Industries) ไทย เพื่อเริ่มการส่งมอบให้กองพันอากาศโยธินประจำกองบินและฐานบินต่างๆใช้งานต่อไป

โครงการวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับพลีชีพ Kamikaze/Decoy UAS(Unmanned Aircraft System) ปี ๒๕๖๘(2025)
การวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถอากาศยานไร้คนขับพลีชีพ (Kamikaze Drone) ให้มีขีดความสามารถการโจมตีเป้านิ่งด้วยระบบนำวิถีในระยะพิสัยกลาง เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศ

โครงการผลิตอากาศยานไร้คนขับพลีชีพ Kamikaze/Decoy UAS ปี ๒๕๖๙(2026), ปี ๒๕๗๐(2027) และปี ๒๕๗๑(2028)
การผลิตอากาศยานไร้คนขับพลีชีพ (Kamikaze Drone) ให้มีขีดความสามารถการโจมตีเป้านิ่งด้วยระบบนำวิถีในระยะพิสัยกลาง เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศ
อากาศยานไร้คนขับพลีชีพ(Kamikaze Drone) ตระกูล KB(Kamikaze Bomber) ที่พัฒนาโดยโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช,  ศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและอวกาศกองทัพอากาศ(Research and Development Center for Space and Aeronautical Science and Technology), และกรมสรรพาวุธทหารอากาศ(Directorate of Armament)
ประกอบด้วย อากาศยานไร้คนขับพลีชีพ KB-5E และอากาศยานไร้คนขับพลีชีพ KB-10G(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/kb-uav.html) คาดว่าจะเสร็จสิ้นการทดสอบต่างๆในปี ๒๕๖๘ และเริ่มต้นสายการผลิตได้ในปี ๒๕๖๙ ซึ่งเข้าใจว่าจะผลิตโดย TAI ไทยเช่นเดียวกับอากาศยานไร้คนขับ M Solar-X

โครงการวิจัยและพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับเพดานบินสูงเสมือนดาวเทียม ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๖๗-๒๕๗๓ (2024-2030) และระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๓-๒๕๗๘ (2030-2035)
การวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถอากาศยานไร้คนขับเพดานบินสูงเสมือนดาวเทียม (HAPS: High Altitude Pseudo Satellite) ให้มีขีดความสามารถปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในระดับยุทธศาสตร์ สามารถพัฒนาเพื่อติดตั้งระบบถ่ายรูปที่มีความละเอียดน้อยกว่า ๐.๓ เมตรได้ และมีระยะเวลาการปฏิบัติการยาวนาน นอกระยะการตรวจจับจากระดับป้องกันทางอากาศของฝ่ายตรงข้าม
กองทัพอากาศไทยเปิดตัวแนวคิดอากาศยานเสมือนดาวเทียม M-Pseudo SAT ครั้งแรกในงานแสดง Defense & Security 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/defense-security-2022-m-pseudo-sat.html) ซึ่งสร้างต้นแบบและทดสอบต่างๆกำลังจะมีการดำเนินการขึ้นตามมาต่อไป

Royal Thai Air Force Aeronautics Aerostar BP Unmanned Aircraft Vehicle (UAV) of 301st Squadron, Wing 3 Watthana Nakhon displayed at Wing 6 Don Muang RTAF base, Bangkok, Thailand for Royal Thai Air Force 88th Anniversary Air Show on 7-8 March 2025. (My Own Photo)

โครงการพัฒนาขีดความสามารถการปฏิบัติการด้วยอากาศยานไร้คนขับของกองทัพอากาศ ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๖๙-๒๕๗๒ (2026-2029)
จัดหาระบบอุปกรณ์ตรวจจับประเภท EO/IR (Electro-Optic/Infrared) จำนวน ๔ ระบบ สำหรับอากาศยานไร้คนขับตรวจการณ์แบบที่๑ บร.ต.๑ Aeronautics Aerostar BP ฝูงบิน๓๐๑ กองบิน ๓ วัฒนานคร และอากาศยานไร้คนขับตรวจการณ์แบบที่๓ บร.ต.๓ Aeronautics Dominator XP ฝูงบิน๓๐๒ กองบิน๓(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/dominator-xp-uav.html)

โครงการพัฒนาขีดความสามารถการปฏิบัติการด้วยอากาศยานไร้คนขับของกองทัพอากาศ ระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๐-๒๕๗๓ (2027-2030)
จัดหาระบบอากาศยานไร้คนขับทดแทนระบบอากาศยานไร้คนขับ บร.ต.๑ Aerostar BP พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบสนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น

โครงการวิจัยและพัฒนา Micro/Nano UAS & Swarm UAS ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๗๐-๒๕๗๕ (2027-2032) และระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๔-๒๕๗๙ (2031-2036)
การวิจัยและพัฒนาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ รวมทั้งการวิจัยและพัฒนา Swarm Drone ขนาด Micro/Nano UAS เพื่อนำเข้าสู่สายการผลิตโดยอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

โครงการวิจัยและพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับติดอาวุธระดับยุทธวิธี Tactical UCAV ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๗๒-๒๕๗๗ (2029-2034) และระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๗-๒๕๘๐ (2034-2037)
การวิจัยและพัฒนาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ วิจัยและพัฒนาวิทยาการอากาศยานไร้คนขับระดับ Tactical ในภารกิจด้านความมั่นคงของกองทัพอากาศ เพื่อพัฒนาต่อยอดงานวิจัยสู่สายการผลิต และนำไปบรรจุใช้งานในกองทัพอากาศและ/หรือหน่วยงานภายนอก

โครงการวิจัยและพัฒนาระบบอากาศยานไร้คนขับ Manned-Unmanned Teaming (MUM-T) ระยะที่ ๑ ปี ๒๕๗๒-๒๕๗๘ (2029-2035) และระยะที่ ๒ ปี ๒๕๗๘-๒๕๘๐ (2035-2037)
การวิจัยและพัฒนาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ วิจัยและพัฒนาวิทยาการอากาศยานไร้คนขับแบบทีมมีคนบังคับ-ไร้คนขับ Manned-Unmanned Teaming ในภารกิจด้านความมั่นคงของกองทัพอากาศ การพัฒนาต่อยอดงานวิจัยสู่สายการผลิต และนำไปบรรจุใช้งานในกองทัพอากาศและ/หรือหน่วยงานภายนอก

ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยมีแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยจากการนำนโยบายชดเชยการจัดหายุทโธปกรณ์(Offset Policy) เป็นส่วนสำคัญในโครงการโดยกำหนดให้มีการถ่ายทอดวิทยาการจากการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ และสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาจนนำไปสู่การผลิตภายในประเทศ เพื่อการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตแม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณก็ตามครับ